การหล่อโดยแรงโน้มถ่วงเป็นวิธีที่ดีในการผลิต วัตถุโลหะ เป็นกระบวนการที่มีเอกลักษณ์ โดยที่โลหะเหลวจะถูกเทลงในแม่พิมพ์ จากนั้นแรงโน้มถ่วงจะทำหน้าที่ดึงโลหะให้ไหลเติมเต็มรูปร่างที่ต้องการ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราสามารถผลิตวัตถุโลหะที่มีความแข็งแรงและทนทานในหลากหลายรูปแบบ ลองมาดูขั้นตอนการหล่อโดยแรงโน้มถ่วงและวิธีการนำไปใช้สร้างสิ่งต่าง ๆ กัน
ข้อดีและข้อเสียของการหล่อแบบแรงโน้มถ่วง การหล่อแบบแรงโน้มถ่วงได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ อย่างหนึ่งที่ควรแนะนำคือ เป็นวิธีการผลิตชิ้นส่วนโลหะที่มีต้นทุนต่ำ และสามารถผลิตได้จำนวนมาก การหล่อแบบแรงโน้มถ่วง ยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความแม่นยำทางมิติ และเหมือนกันทุกครั้ง
การหล่อแบบแรงโน้มถ่วงมีการนำไปประยุกต์ใช้หลากหลาย และได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมทางการแพทย์ พลังงาน เกษตรกรรม ยานยนต์ อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วนอย่างเช่น กระบอกสูบลูกสูบ ล้อแม็ก และกล่องเกียร์ มักผลิตด้วยวิธีการหล่อแบบแรงโน้มถ่วง ขณะที่อุตสาหกรรมการบินและอวกาศนำวิธีการนี้มาใช้ในการผลิต ชิ้นส่วนเครื่องบิน อย่างเช่น ใบพัดกังหัน และชุดล้อลงจอด
ขั้นตอนการหล่อแบบแรงโน้มถ่วงเริ่มต้นด้วยการสร้างแม่พิมพ์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีรูปร่างตามแบบของผลิตภัณฑ์นั้น แม่พิมพ์จะถูกวางไว้เหนือเตาเผาที่ใช้หลอมโลหะให้ละลาย เมื่อโลหะถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม ก็จะถูกเทลงในแม่พิมพ์ โดยแรงโน้มถ่วงจะทำหน้าที่ให้โลหะไหลเติมเต็มทุกพื้นที่ที่ว่างอยู่ โลหะที่เย็นตัวแล้วจะคงรูปร่างตามแม่พิมพ์ที่กำหนดไว้
มีกระบวนการหล่อแบบอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตสินค้าที่หล่อโดยแรงโน้มถ่วง หนึ่งในความแตกต่างหลักคือ การหล่อโดยแรงโน้มถ่วงจะใช้แรงโน้มถ่วงในการเติมเต็มแม่พิมพ์ ในขณะที่กระบวนการหล่อแบบอื่น เช่น การหล่อไดค์ด้วยแรงดันสูง จะใช้แรงดันสูงในการเติมเต็มแม่พิมพ์ การหล่อโดยแรงโน้มถ่วงยังเป็นที่นิยมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผิวสัมผัสที่เรียบเนียนดี รวมถึงชิ้นส่วนที่มีรายละเอียดเล็ก ๆ เพราะเมื่อเทียบกับการหล่อทรายซึ่งแม่พิมพ์ทรายนั้นใช้เพียงครั้งเดียว แม่พิมพ์สำหรับการหล่อโดยแรงโน้มถ่วงสามารถนำมาใช้ซ้ำได้